SEM คืออะไร

Search Engine Marketing หรือ SEM คืออะไร และมีประโยชน์สำหรับการทำตลาดออนไลน์อย่างไรบ้าง

คำนี้ ถ้าเทียบกับ SEO ที่คนนิยมทำกัน มือใหม่ในด้านการตลาดออนไลน์อาจจะไม่ค่อยคุ้นเท่าไหร่นัก แต่เวลานี้การทำ SEM เริ่มที่จะได้รับความสนใจมากขึ้น ในฐานะที่เป็นรูปแบบของการทำโฆษณาเว็บไซต์ ซึ่งก็มักมีการทำคู่ขนานไปกับการทำ SEO ด้วยวันนี้เราจะมาแนะนำลักษณะการทำงานและประโยชน์ของ SEM โดยเบื้องต้นครับ

SEM คืออะไร

ที่จริงแล้ว SEM หรือ Search Engine Marketing ย่อมาจากการนำกลุ่มสองคำมารวมกันจนเกิดเป็นคำศัพท์ใหม่ในวงการตลาดออนไลน์ นั่นคือระหว่างคำว่า

Search Engine (การค้นหาข้อมูลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต) + Marketing (การตลาด)

ดังนั้น ถ้าแปลเป็นภาษาไทย ก็จะมีความหมายว่า “การทำการตลาดผ่านเครื่องมือค้นหาบนอินเทอร์เน็ต”

จะเห็นว่า ฟังดูเรียบง่ายและเบสิกมาก

รูปแบบการทำงาน

โดยปกติแล้ว SEM จะเป็นการทำการตลาดออนไลน์ที่ใช้ 2 วิธีการหลัก คือ

Search Advertising หรือ ทำการตลาดด้วยโฆษณา รูปแบบนี้จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในลักษณะของ PPC (Pay Per Click) ซึ่งเราจะต้องจ่ายเงินก็ต่อเมื่อมีคนเข้ามาคลิกในเว็บไซต์ที่เราโฆษณาเท่านั้น โดยวิธีนี้จะนิยมใช้กันมากในต่างประเทศ

Organic Search เป็นการทำตลาดด้วย SEO วิธีนี้เจ้าของเว็บไซต์ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายให้กับทางแพล็ตฟอร์ม แต่จะเสียค่าใช้จ่ายให้คนทำ Content และ SEO เป็นหลัก

สำหรับกลยุทธ์ในส่วนของการทำ SEM ที่ดีก็คือ ไม่ว่าจะแบบไหนก็ควรต้องสร้างคำสำหรับค้นหา หรือ Keyword ที่จะต้องเกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการของเราขึ้นมาเป็นตัวนำบนหน้าเว็บไซต์ จากนั้นเมื่อมีคนค้นหาคำหรือ Keyword ที่ตรงกับที่เราได้ตั้งไว้ในเว็บ Search engine จากนั้นเว็บไซต์ของเราก็จะแสดงผลขึ้นมา ซึ่งแน่นอนว่าการทำ SEM ที่ได้ผลที่สุดยุคนี้ก็คือผ่านทาง Google เป็นหลัก เนื่องจากในประเทศไทยและหลายประเทศทั่วโลกนิยมใช้งานเป็นอันดับ 1

แต่กรณีที่คุณจะทำการตลาดในประเทศจีน หรือ ญี่ปุ่น ก็จะมีเงื่อนไขต่างออกไป เพราะจีนจะใช้งาน Baidu ในขณะที่ Yahoo ยังคงใช้งานกันอยู่ในญี่ปุ่น และไต้หวัน เป็นต้น ดังนั้นถ้าต้องการทำตลาดในต่างประเทศ ก็ควรต้องศึกษาว่า ประเทศไหนใช้แพลตฟอร์มอะไรเป็นหลักด้วยครับ

ข้อดีและข้อด้อย

การทำ SEM ย่อมมีทั้งข้อดีและข้อด้อย มาดูกันเว็บไซต์หรือธุรกิจของเราจะเหมาะสมกับแบบไหน

ข้อดีของ SEM

1.ส่วนใหญ่แล้วเห็นผลค่อนข้างเร็ว หรือถ้าต้องใช้เวลาก็ภายใน 1-6 เดือน

2.สามารถปรับเพิ่มและจัดการ Keyword ได้ตลอดเวลา

3.เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ค่อนข้างรวดเร็ว

4.การค้นหามักจะพบอยู่ในหน้าแรกๆเสมอ

5.ถึงจะมีเพียงเว็บเดียวก็สามารถทำได้

6.วัดผลและวิเคราะห์ข้อมูลเป็นชุดตัวเลขได้

ข้อด้อยของ SEM

1.กรณีที่ทำ Search Advertising จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการประมูล เว็บไซต์ของเราจึงจะติดอันดับต้นๆ ดังนั้นถ้ายอดเงินในการประมูลหมด อันดับก็จะตกไปด้วย

2.ต้องเสียเงินทุกครั้งเมื่อมีคนคลิกเข้ามาดูในเว็บไซต์

3.ราคาค่าโฆษณาไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับการแข่งขัน

4.มีค่าใช้จ่ายสูง อาจจะไม่คุ้มกับบางเว็บไซต์ที่ไม่ได้มุ่งเรื่องธุรกิจหรือขายสินค้ามากนัก

5.พฤติกรรมของผู้ใช้ Google ที่เปลี่ยนไป แนวโน้มที่คนจะไม่เลือกคลิกในเว็บไซต์ที่ซื้อโฆษณาที่ทำให้อยู่ในอันดับต้นๆของ Google มีมากขึ้นเรื่อยๆ

6.ยอดคนคลิกเข้ามาก ก็ไม่ได้การันตีว่าสินค้าในเว็บไซต์จะขายดีไปด้วย

โดยสรุปแล้ว การทำ SEM ที่ดีควรจะต้องใช้การผสมผสานระหว่างซื้อโฆษณาเพื่อช่วยให้เว็บไซต์ของเราผงาดขึ้นมาท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง แล้วติดอันดับอย่างรวดเร็ว แต่ก็ต้องทำให้การค้นหาแบบ Organic เป็นตัวหลักในระยะยาวด้วยเช่นกัน