ทำเว็บไซต์แล้ว แต่ทำไมคนเข้าน้อย

มีนาคม 29, 2019มีนาคม 29, 2019 Benjamaporn

จำนวนการดู : 941

✅ อันดับเว็บไซต์ไม่ขึ้นบน Google

Google Ranking เป็นหนึ่งในเรื่องที่มักจะไม่ได้รวมอยู่ในบริการทำเว็บไซต์โดยตรง แต่จะอยู่ในส่วนของนักการตลาด พวกสายโฆษณา ไปจนถึงสาย Content

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เวลานี้ทุกอย่างมันแทบจะผูกเข้ากันไปหมด ถ้าทำเว็บขึ้นมาแล้ว คนจ่ายเงินหรือเจ้าของร้านก็อยากจะดันเว็บของตัวเองให้มีอันดับดี ๆ ให้คนมองเห็นเยอะ ๆ อยู่แล้ว

นี่จึงเป็นอีกโจทย์ใหญ่ที่ต้องทำครับ ทั้งการผลิต Content การทำ SEO ไปจนถึงการทำ Google Adwords ที่ต้องทำควบคู่ไปด้วยกับการทำเว็บไซต์ของเรา ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้าและบริการด้วยเหมือนกันว่า ควรจะมุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์ไหนเป็นหลัก

✅ โหลดช้า รูปแบบเว็บไม่เอื้อกับมือถือ

เพราะยุคนี้ ผู้คนนิยมใช้งานโซเชียลมีเดียบนมือถือเพิ่มขึ้นสูงสุดอย่างไม่เคยมีมาก่อน และเป็นทั่วโลกด้วย

เนื่องจากรูปแบบการใช้ชีวิตของคนเราเปลี่ยนแปลงไป เมื่อมือถือสมาร์ทโฟนได้กลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันชนิดที่แทบจะเป็นปัจจัยที่ 6 ไปแล้ว ดังนั้นการทำเว็บไซต์เองก็ต้องรองรับรูปแบบที่จะมองเห็นผ่านมือถือด้วย

ซึ่งถ้าเป็นเครื่องมือทำเว็บรุ่นใหม่ ๆ (Web Template) ก็จะไม่มีปัญหาเรื่องนี้ครับ เพราะถูกเขียนมาให้รองรับบนมือถืออยู่แล้ว แต่จะเป็นปัญหาของเว็บรุ่นเก่า หรือเว็บประเภทเขียนเอง แล้วใส่ภาพ หรือ Flash มากเกินไป ทำให้การโหลดเข้าเว็บช้า เมื่อเข้าช้าก็จะเสียโอกาสครับ เพราะถ้ากดคลิกลิ้งก์สำหรับเข้าเว็บทางโซเชียลหรือจาก Google แล้วต้องใช้เวลาโหลดเกินกว่า 15 วินาที มันมีแนวโน้มสูงที่คนจะเลือกออกไปเข้าเว็บอื่นแทน นอกเสียจากว่าจะเป็นช่องทางของเว็บชื่อดังสำหรับสินค้ากลุ่มนั้น หรือบนเว็บอีคอมเมิร์ซยอดนิยมอย่างพวก Lazada Shopee ที่เป้าหมายการกดเข้าไปของคนใช้ชัดเจนอยู่แล้วนั่นเอง

✅ ขาดแคลน Content และการ Copy มากเกินไป

การทำโฆษณา หรือ ทำ SEO เป็นกลยุทธ์ที่ดีในการดันเว็บไซต์ก็จริง แต่การจะยืนให้ได้ในระยะกลางและระยะยาว ก็ต้องมีการผลิต Content เพื่ออัพเดทบนเว็บไซต์ไปด้วย ซึ่งระบบอัลกอริธึมของ Google ก็จะให้คะแนนในส่วนนี้ เพื่อตัดสินว่านี่คือเว็บที่มีคุณภาพหรือไม่ ซึ่งนี่คือปัญหา เพราะ Content เป็นสิ่งที่หลายเว็บไซต์ค่อนข้างขาด แล้วระบบการตรวจจับของ Google ก็ฉลาดมากขึ้น เพราะจะตัดคะแนนของการ Copy จากเว็บอื่นออกไปได้ฉลาดขึ้นนั่นเอง

✅ ต้องมีระบบอีคอมเมิร์ซ

เนื่องจากไลพ์สไตล์ของคนเราได้หันมาค้นหาสิ่งต่าง ๆ หรือทำธุรกรรมผ่านทางมือถือมากขึ้น อีกทั้งบรรดาบริษัทและองค์กรต่าง ๆ ก็ได้มีการปรับตัวด้วยการสร้างแอพเพื่อใช้งานทางมือถือที่ให้ผู้ใช้บริการดาวโหลดมาลงอย่างง่ายๆกันมากขึ้น เช่น ธนาคาร และสถาบันการเงินต่าง ๆ ดังนั้นฝั่งร้านค้าเองก็พยายามทำแอพหรือร่วมรายการกับแอพบางตัวเพื่อทำส่วนลดและจัดโปรโมชั่นสะสมคะแนน และช่องทางอีคอมเมิร์ซสำหรับโอนเงิน ทำธุรกรรมการเงิน เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกสินค้าและใช้จ่ายทันที

ซึ่งถ้าไม่ทำช่องทางนี้เข้ามาเสริม ก็มีโอกาสที่จะเสียลูกค้าไปด้วย และการกดเข้ามาดูของลูกค้าเองก็จะลดต่ำลง

✅ อัลกอริธึมของ Google มีการเปลี่ยนแปลง

เนื่องจากโดยปกติ Google จะมีการเปลี่ยนแปลงอัลกอริธึม ซึ่งมักจะส่งผลกระทบต่อเว็บไซต์ต่างๆเป็นอย่างมากอยู่แล้ว ตรงนี้จะส่งผลกระทบกับเว็บอีคอมเมิร์ซหลายแห่ง ที่ต้องมีการติดตามอัพเดทและเพิ่มคุณภาพของเว็บให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่ม Content ที่ดึงดูดและตอบโจทย์ของลูกค้า การแชร์ออกโซเชียลมีเดีย และการสร้าง Re-Ecommerce เพื่อทำให้เกิดการเข้ามาซื้อซ้ำ เป็นต้น

แต่สุดท้ายแล้ว ถ้าในเว็บไซต์เหล่านั้นไม่มี Content หรือสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ สุดท้ายก็จะโดนเว็บอื่นแซงหน้าอยู่ดี